ผู้ขายรายหนึ่งบน Amazon ยอดขายมาต่อเนื่องทุกวัน สร้างรายได้สม่ำเสมอต่อเดือน แล้วอยู่ๆยอดขายก็หายไปซะดื้อๆเลย จนเขาได้ค้นพบว่า ยอดขาย Amazon ตก อาจเกิดจากหนึ่งสาเหตุหรือหลายๆสาเหตุรวมกัน วันนี้ VAS247 เลยเอา Checklist ที่เอาไว้วิเคราะห์ว่ายอดขายตกนั้นเกิดจากอะไร ลองตอบตัวเองกับคำถามเหล่านี้
1. ขายสินค้าตามฤดูกาลหรือป่าว และตอนนี้อยู่ในช่วง low season หรือคนซื้อกันน้อยหรือไม่
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มทำธุรกิจบน Amazon อาจจะยากที่จะตอบคำถามนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสินค้าบางอย่างมันบอกได้อยู่แล้วว่าควรจะขายดีในช่วงหน้าร้อน หน้าฝน หน้าหนาว เป็นต้น สินค้าอะไรควรจะขายดีในเทศกาลไหน บางคนขายสินค้าเกี่ยวกับวันฮาโลวีน ก็จะขายดีในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ส่วนช่วงอื่นๆยอดขายก็จะตกลงไปอย่างน่าใจหาย ซึ่งมันจะเป็นเรื่องปกติ คนที่เข้าใจวัฏจักรตรงนี้ก็จะมีการเตรียมตัวหาสินค้าตัวอื่นๆเข้ามาเสริมเพื่อให้คงยอดขายได้ตลอดปี
2. ลิสสินค้าคุณอาจจะมีปัญหาก็ได้นะ
เนื่องจากระบบ Amazon มีการปรับเปลี่ยนทุกๆวันก็ว่าได้ ดังนั้นต้องติดตามข่าวสารอัพเดตต่างๆอยู่เสมอๆ ทาง VAS247 เองก็มีบทความอัพเดตข่าวสารอยู่เรื่อยๆ แต่จะเน้นที่สำคัญๆจริงๆ อย่างล่าสุดทาง Amazon มีการออกประกาศอัพเดตเรื่อง การระงับสินค้าที่ตั้งชื่อผิดกฏ จากการค้นหาจากลูกค้า ผลที่ตามมาตรงๆเลยก็คือ สินค้าจะไม่โชว์บนหน้าค้นหาอีกต่อไป เท่ากับว่าก็ขายไม่ได้นั่นเอง และส่งผลให้ยอดขายตกในที่สุด ใครที่มีปัญหาเรามีเครื่องมีให้ใช้กันฟรีๆ เครื่องมือจัดการ ชื่อสินค้า+คีย์เวิร์ด
3. สินค้าอาจจะไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแล้ว
สินค้าบางอย่างอาจจะขายดีเพราะอาจจะเหตุการณ์สนับสนุนให้สินค้านั้นๆขายดี ยกตัวอย่างเคสในเมืองไทยเมื่อหลายเดือนก่อน อยู่ๆอากาศในกทมก็เลวร้าย มลพิษเพิ่มในระดับที่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ส่งผลให้ผู้คนเริ่มมองหาวิธีป้องกัน ผลพลอยได้จึงตกมายังคนที่ขายสินค้ากลุ่มนี้เช่น เครื่องกรองอากาศ หน้ากากกันฝุ่น เป็นต้น ใครเริ่มขายก่อนก็กวาดรายได้ไปเต็มๆ ส่วนใครที่เริ่มทีหลังก็เหมือนต้องจ่ายรอบวง ทุนจม ของขายไม่ออก ขาดทุนกันไป ในอเมริกาก็เช่นกัน สินค้าบางอย่างที่คุณขายอาจจะเป็นที่ต้องการในอดีต แต่ตอนนี้แค่ไม่เป็นที่ต้องการแล้ว ก็ต้องวิเคราะห์กันดูเอาเอง
4. โดนคู่แข่งขายตัดราคา
ใน Amazon บอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่เป็นปัญหาอันดับต้นๆของผู้ขายที่ไม่มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง เนื่องจากระบบ Amazon รองรับให้ผู้ขายอื่นๆสามารถขายสินค้าในลิสเดียวกันได้ ดังนั้นโอกาสที่สินค้าที่เราเคยขายดีในอดีต จะขายไม่ได้อีกต่อไปหากมีคู่แข่งมาขายแข่งกับเรา และขายตัดราคาในราคาที่ต่ำกว่า คนไทยน่าจะเจอปัญหานี้กันเยอะเลย
5. โดนรีวิวที่ไม่ดีจากลูกค้าหรือป่าว
รีวิวเป็นตัวแปรในลำดับต้นๆที่ทำให้เกิดยอดขายตามมาเรื่อยๆ สินค้าที่คุณเคยขายดี ได้รีวิวดีๆมาก่อนหน้านี้ อยู่ๆมีลูกค้าจำนวนหนึ่งให้รีวิวที่แย่ๆกับสินค้าคุณ อาจจะส่งผลให้ผู้ซื้อรายต่อไปขาดความเชื่อมั่นในตัวสินค้าหรือผู้ขายก็ได้ ดังนั้นต้องหมั่นเช็คให้ดีว่าลิสสินค้าเรานั้นได้รับรีวิวที่ไม่ได้จากลูกค้าหรือไม่ และควรหาทางแก้ไขต่อไป
6. คุณอาจจะมีปัญหากับ Seller Performance
Amazon มีระบบที่วัดความสามารถหรือประสิทธิภาพในการทำธุรกิจของผู้ขายผ่านทาง Seller Performance เพื่อรักษามาตรฐานของผู้ขายให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของ Amazon หากผู้ขายไม่สามารถรักษามาตรฐานไว้ได้ เช่น ส่งสินค้าล่าช้า ตอบลูกค้าช้า สินค้ามีปัญหา จัดการกับปัญหาลูกค้าได้ไม่ดี ทุกอย่างมีการวัดออกมาเป็นตัวเลขแทบทั้งสิ้น ซี่งตัวเลขเหล่านี้จะเตือนไปยังระบบและอาจจะระงับร้านของคุณชั่วคราวหากตัวเลขต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ บางคนที่ขั้นโดน Amazon แบน และแน่นอนมันส่งผลถึงยอดขายในที่สุด
7. หมดโปรโมชันหรือโฆษณาได้หยุดไปหรือป่าว
ผู้ขายบางรายมีการทำโปรโมชันหรือสร้างโฆษณาเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่องทางต่างๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะผ่าน Amazon Sponsor Ad หรือผ่านทาง Social media ต่างๆเช่น facebook instragram หรืออื่นๆ ซึ่งอาจจะรันไว้นานแล้วและลืมไปว่าตั้งให้หยุดโฆษณาเมื่อไหร่ หรืออาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้การแสดงผลไม่เหมือนเดิม โดยสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อยอดขายทั้งสิ้น จำเป็นต้องหมั่นตรวจสอบโปรโมชันหรือโฆษณาในทุกอาทิตย์หรือแล้วแต่ตารางที่แต่ละคนวางเอาไว้ หากใครยิงโฆษณาแล้วยังขาดทุนต้องอ่านเรื่องนี้
8. คุณกำลังย่ำอยู่ที่เดิมและหลงระเริงกับความสำเร็จเก่าๆอยู่หรือป่าว
โลกที่กำลังหมุนไปและหมุนเร็วกว่าเดิมมากๆ ทุกอย่างพัฒนาไปเร็วมาก หากคุณยังยึดติดกับยอดขายเดิมๆ ไม่มีการหาโอกาสใหม่ๆให้ตัวเอง ไม่ศึกษาเพิ่มเติม ไม่ปกป้องสร้างกำแพงให้สิ่งที่ทำไว้ดีแล้ว สุดท้ายก็ยากที่จะรักษายอดขายหรือธุรกิจเอาไว้ได้ มันคือยุคแห่งการปรับตัว คนที่อยู่รอดไม่ใช่คนเก่งหรือขยัน แต่เป็นคนที่รู้จักปรับตัวให้เหมาะกับสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองอยู่
VAS247
========================================================